การเลือกเวลาดื่มกาแฟมีผลโดยตรงต่อประโยชน์ที่ได้รับจากคาเฟอีน หากดื่มในช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสดชื่น แต่ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางชนิด มาดูกันว่าเวลาที่เหมาะสมมีช่วงไหนบ้าง
- ช่วงเช้า (9-11 โมงเช้า): หากคุณดื่มกาแฟในช่วงนี้ คาเฟอีนจะช่วยเพิ่มความตื่นตัวโดยไม่กระทบต่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ทำงานในช่วงแรกหลังตื่นนอน การดื่มช่วง 9-11 โมงเช้าจะช่วยให้คุณสดชื่นยาวนานยิ่งขึ้น
- ช่วงบ่ายหลัง 1-3 โมงเย็น: หลายคนรู้สึกง่วงนอนหลังมื้อกลางวัน การดื่มกาแฟในช่วงบ่ายจะช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการดื่มหลังบ่าย 3 โมงเพราะอาจกระทบการนอน
- ดื่มตามปริมาณที่เหมาะสม: ควรจำกัดการดื่มไม่เกิน 2-3 แก้วต่อวัน เพราะการดื่มเกินขนาดอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับหรือรู้สึกตื่นเต้นเกินไป
- คำนึงถึงสภาพร่างกายของแต่ละคน: ไม่ใช่ทุกคนที่จะตอบสนองต่อคาเฟอีนได้ในลักษณะเดียวกัน บางคนอาจมีความไวต่อคาเฟอีนมากกว่าคนอื่น ๆ หากคุณรู้สึกกระวนกระวายหรือนอนไม่หลับแม้จะดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียวในช่วงบ่าย แนะนำให้ลดปริมาณลง หรือหันมาดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนแทนในช่วงเย็น
- ดื่มกาแฟควบคู่กับน้ำเปล่า: คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดังนั้นการดื่มกาแฟมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้ง่าย เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ควรดื่มน้ำเปล่าควบคู่ไปกับกาแฟ โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนหรือวันที่ทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก
- คำนึงถึงคุณภาพของกาแฟ: นอกจากการเลือกเวลาแล้ว คุณภาพของกาแฟก็สำคัญเช่นกัน กาแฟที่ดีควรเป็นกาแฟสดที่ไม่มีสารปรุงแต่งเพิ่ม เช่น น้ำตาลหรือนมที่มากเกินไป เพื่อให้ได้ประโยชน์จากกาแฟอย่างแท้จริง
- การดื่มกาแฟที่เหมาะสมทั้งในด้านของเวลาและปริมาณ จะช่วยเสริมสร้างประโยชน์ให้กับสุขภาพ เช่น ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 และเสริมสร้างการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพ