การไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากโทรไลน์หรือ “โทรไลน์ไม่เตือน“เป็นปัญหาที่ค่อนข้างพบเห็นบ่อย สามารถทำให้คุณพลาดสายที่สำคัญจากเพื่อน ครอบครัว หรือคู่สมรสได้ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหานี้
สาเหตุที่โทรไลน์ไม่เตือน
- การตั้งค่าแจ้งเตือน: ตรวจสอบว่าคุณได้เปิดการแจ้งเตือนสำหรับการโทรในแอป LINE หรือไม่ ไปที่ “ตั้งค่า” > “การแจ้งเตือน” > “การโทร” และเปิดใช้งาน “เสียง” และ “การสั่น”
- การตั้งค่าเสียง: ตรวจสอบว่าระดับเสียงบนโทรศัพท์ของคุณถูกตั้งค่าให้เหมาะสมหรือไม่ ไปที่ “ตั้งค่า” > “เสียง” > “เสียงเรียกเข้า” และปรับระดับเสียงตามต้องการ
- โหมดห้ามรบกวน: ตรวจสอบว่าคุณได้ปิดใช้งานโหมดห้ามรบกวนหรือไม่ ไปที่ “ตั้งค่า” > “เสียง” > “ห้ามรบกวน” และปิดใช้งาน
- การประหยัดพลังงาน: ตรวจสอบว่าโหมดประหยัดพลังงานถูกเปิดใช้งานหรือไม่ โหมดนี้อาจจะทำให้การแจ้งเตือนถูกจำกัด ไปที่ “ตั้งค่า” > “แบตเตอรี่” > “โหมดประหยัดพลังงาน” และปิดใช้งาน
- ปัญหาเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน: ตรวจสอบว่าแอปพลิเคชัน LINE เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งหรือไม่ อัปเดตแอปพลิเคชัน LINE ใน App Store หรือ Google Play Store
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ: ตรวจสอบว่าระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือไม่ อัปเดตระบบปฏิบัติการไปยังเวอร์ชันล่าสุด
วิธีการแก้ไขปัญหา โทรไลน์ไม่เตือน
- เปิดการแจ้งเตือน: ไปที่ “ตั้งค่า” > “การแจ้งเตือน” > “การโทร” และเปิดใช้งาน “เสียง” และ “การสั่น”
- ปรับระดับเสียง: ไปที่ “ตั้งค่า” > “เสียง” > “เสียงเรียกเข้า” และปรับระดับเสียงตามต้องการ
- ปิดโหมดห้ามรบกวน: ไปที่ “ตั้งค่า” > “เสียง” > “ห้ามรบกวน” และปิดใช้งาน
- ปิดโหมดประหยัดพลังงาน: ไปที่ “ตั้งค่า” > “แบตเตอรี่” > “โหมดประหยัดพลังงาน” และปิดใช้งาน
- อัปเดตแอปพลิเคชัน: อัปเดตแอปพลิเคชัน LINE ใน App Store หรือ Google Play Store
- อัปเดตระบบปฏิบัติการ: อัปเดตระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์ของคุณไปยังเวอร์ชันล่าสุด
- รีสตาร์ทโทรศัพท์: ลองรีสตาร์ทโทรศัพท์ของคุณ
- ล้างแคชแอปพลิเคชัน: ไปที่ “ตั้งค่า” > “แอปพลิเคชัน” > “LINE” > “ที่เก็บข้อมูล” > “ล้างแคช”